มรชุน คนเขียนดิน
วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
สายน้ำประดจมารดา
.......สายน้ำ ประดุจมารดา มารดาชื่อว่าผู้ให้กำเนิดบุตร ผู้ให้ชีวิต สายน้ำชื่อว่าหล่อเลี้ยงชีวิต ดังจะเห็นคำยกย่องความประเสริฐของน้ำได้ในภาษาไทย เช่น แม่น้ำ พระแม่โพสพ แม่วารี น้ำแม่ปิง น้ำแม่ตาปี น้ำแม่โขง แม่น้ำมูล แม่น้ำชี ฯลฯ ซึ่งคำเหล่านี้ ไม่เพียงแต่แสดงให้เราเห็นถึงภูมืปัญญาของคนโบราณในการเลือกสรรคำมาใช้ ยกย่องเทิดทูลคุณของน้ำแล้ว ยังแฝงด้วยปรัชญาที่ใช้สอนให้ลูกหลานได้ตระหนักถึงคุณประโยชน์อันเกื้อกูล ต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่อันมีน้ำเป็นปัจจัยสำคัญของการดำรงชีวิตอีกด้วย
.............................................................................มรชุน คนเขียนดิน
มรชุน ว่าด้วยธรรมชาติ๑
*แม้ข้าวสักเม็ดก็มีคุณค่าในตัวของมันเอง
*นักศึกษาที่ดีจะต้องมีปัญญาที่กระจ่าง
มีสองมืออันสัมผัสแม่พระธรณี
มีความสำเหนียกรู้ถึงคุณค่าของการมีชีวิตอันมีธรรมชาติโอบอุ้มอยู่
*มารดาผู้ให้กำเนิดนั้นมีสิเนหาต่อบุตรธิดาฉันใด
ธรรมชาติผู้ให้ชีวิตย่อมให้ความรักแก่สรรพชีวิตฉันนั้น
*กว่าจะได้มาแสนยากลำบาก แต่ก็ยังไม่เท่าได้มาแล้วไม่เห็นคุณค่า
*สัญชาตญาณของการรับรู้ธรรมชาติ มีอยู่ในหมู่มนุษย์ทุกคน
*เราไม่อาจปฏิเสธได้เลย ว่าเราจ้างคนทำกับข้าว
จ้างคนขายข้าว เราจ้างคนส่งข้าว และเราก็จ้างคนปลูกข้าว
*ทรัพยากรในโลกมีอุดมสมบูรณ์เพียงพอสำหรับประทังชีวิตคนทั้งโลก
แต่ไม่เพียงพอสำหรับคนละโมบเพียงคนเดียว
*เราจะได้ยินเสียงโอดครวญร่ำไห้ของธรรมชาติก็ต่อเมื่อ เราขาดจิตสำนึก
*นักศึกษาที่ดีจะต้องมีปัญญาที่กระจ่าง
มีสองมืออันสัมผัสแม่พระธรณี
มีความสำเหนียกรู้ถึงคุณค่าของการมีชีวิตอันมีธรรมชาติโอบอุ้มอยู่
*มารดาผู้ให้กำเนิดนั้นมีสิเนหาต่อบุตรธิดาฉันใด
ธรรมชาติผู้ให้ชีวิตย่อมให้ความรักแก่สรรพชีวิตฉันนั้น
*กว่าจะได้มาแสนยากลำบาก แต่ก็ยังไม่เท่าได้มาแล้วไม่เห็นคุณค่า
*สัญชาตญาณของการรับรู้ธรรมชาติ มีอยู่ในหมู่มนุษย์ทุกคน
*เราไม่อาจปฏิเสธได้เลย ว่าเราจ้างคนทำกับข้าว
จ้างคนขายข้าว เราจ้างคนส่งข้าว และเราก็จ้างคนปลูกข้าว
*ทรัพยากรในโลกมีอุดมสมบูรณ์เพียงพอสำหรับประทังชีวิตคนทั้งโลก
แต่ไม่เพียงพอสำหรับคนละโมบเพียงคนเดียว
*เราจะได้ยินเสียงโอดครวญร่ำไห้ของธรรมชาติก็ต่อเมื่อ เราขาดจิตสำนึก
วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553
สมดุล
เคยมีคนถามถึงภาพนี้ว่า ความสมดุลของภาพจะเกิดขึ้นได้อย่างไร? เมื่อคนบนหลังควายเริ่มหายไปทีละคนๆ
ด้วย สมองอันหนาทึบของผมในตอนนี้ยังไม่สามารถอธิบายหรือตอบคำถามให้กระจ่าง แจ้งอย่างหมดจด แต่จะขอตอบตามความเข้าใจ หากว่ามีผู้รู้มาแนะนำจะเป็นการดียิ่ง ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
...... ความสมดุลของภาพนี้คือ ความสมดุลของธรรมชาติ ธรรมชาติให้มา ธรรมชาติรับไป ธรรมมชาติไม่เคยขาดทุน ไม่เคยได้ผลกำไร ไม่ได้ไม่เสีย......เมื่อเรามีธรรมชาติอย่างจำกัด เราเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติอย่างเป็นมิตร หวงแหนและสำนึกคุณอยู่เนืองๆ ในทางตรงกันข้าม เมื่อเราไม่รู้จักประโยชน์ไม่รู้จักสำนึก ใช้ธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง เมื่อธรรมชาติเหลือน้อย คนเราย่อมต้องแย่งกันเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ดีๆอยู่เสมอตามกฎอุปสงค์อุป ทาน แต่สุดท้ายแล้วธรรมชาติก็ต้องหมดไปอยู่ดี ผลประโยชน์ที่ได้ ของดีๆที่ได้ เมื่อได้จากธรรมชาติสุดท้ายก็ต้องคืนสู่ธรรมชาติ เป็นธรรมดา ........................................................................................ มรชุน คนเขียนดิน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)